การทำเสน่ห์ ให้ประสบผลสำเร็จนั้น อย่างแรกเลย เป็นเรื่องของหมอเจ้าพิธี ที่เป็นหมอไสยศาสตร์จริง ๆ คำว่าหมอไสยศาสตร์จริง ๆ ไม่ได้หาง่าย ๆ บางคนศึกษามานิด ๆ หน่อยๆ ก็บอกว่าตนเองของจริง แต่เอาเข้าจริงคือ ของจริงในแบบนี้ คือ ทำพิธีจริงๆ แต่เป็นเพียงการทำพิธีเชิงสัญลักษณ์ เพราะตำราที่เขาอ่านบอกมาแบบนี้ ทำให้ใหญ่โตหน่อย แล้วคนก็แห่ไปกราบไหว้ แบบนี้เห็นได้ทั่ว ๆ ไป

ผมเคยคุยกับสำนัก พราหมณ์ (พราหมณ์ทำหน้าที่ประกอบพิธีทางศาสนา สอนศาสนา เป็นเจ้าพิธีติดต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรือ พระเจ้าแทนผู้อื่น) ผมคุยกับเขาเรื่องการตั้งศาลพระภูมิ ปัญหาของสำนักพราหมณ์ก็คือ ชาวบ้านทั่ว ๆ ไป เอาหนังสือการตั้งศาลพระภูมิ มาอ่านแล้วไปทำกันเอง (พราหมณ์ คือ ผู้เป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เชิญลงมาสถิตใน ศาลพระภูมิ) พูดง่ายๆ คือ ชาวบ้านไปทำกันเองอย่างูๆ ปลาๆ เพราะเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นเอาของมาตั้งๆ จุดธูป สวดๆ ก็เสร็จ เขาเรียกทำเพื่อความสบายใจ แล้วราคาถูกเพราะจ้างคนข้างบ้านที่ทำพิธีตั้งศาลพระภูมิเป็นก็ได้ (ซึ้งหากทำไม่ถูกหลักอาจจะเกิดสิ่งไม่ดีขึ้นได้ในอนาคต)
หมอเสน่ห์ก็เหมือนกัน บริบทเดียวกัน ใครก็ไม่รู้ เป็นคนธรรมดาด้วยซ้ำมาตั้งตนเป็นหมอเสน่ห์ คือ หมอไสยศาสตร์จะต้องมีบางอย่างที่เหนือกว่าคนธรรมดา ไม่งั้นคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าคนไหนหลอกที่ไหนจริง อย่างสำนักเราจะจัดให้ดูดวงก่อนทำพิธีเสน่ห์ ไม่ต้องเล่าอะไรล่วงหน้า แล้วถึงจะสัมผัสได้ว่าหมอที่ทายคนนี้เป็นอย่างไร

(ส่วนสำคัญของพิธีเสน่ห์ คือหมอจะต้องหยั่งรู้จิตใจคนรักที่ต้องการให้กลับมาว่า จิตใจแฟน แรกครั้งที่ยังรักเราเพราะว่าอะไร รูปร่างหน้าตา ความใคร่ หรือ เหตุการณ์ใด ๆ ในอดีตที่กำเนิดให้รักกัน แล้วใช้วิชาอาคม ควบคุมจิตใจคนรักให้ย้อนภาพนึกถึงเรื่องต่างๆ ในอดีตนั้นๆ จนเกิดการอยาดกลับมาคบหากันอีกครั้ง กรณีที่เคยเป็นแฟนกันมาก่อน)

หรือ กรณีแอบชอบ แอบรัก เฟรนโซน ไม่ใช่สเปค ทำเสน่ห์จะใช้พิธีแบบไหน โดยทั่วไปจะเป็นการเข้าไปจีบเขาแล้ว เขาไม่สนใจ พิธีทำเสน่ห์จะช่วยได้เยอะ โดยการทำคาถาที่เรียกว่า เสริมราศี (โอม เสกน้ำล้างหน้า ให้ตัวเหมือนนางฟ้า ให้หน้าสวยเหมือนดวงพระจันทร์ ให้ราศีกูนั้น ให้เหมือนแสงพระอาทิตย์ ให้รักกูสนิท เหมือนช้างรักงา เหมือนปลารักน้ำ ….. ) เป็นคาถาท่อนภาษาไทย ไม่ชอบฉันดีนัก ฉันทำราศีให้เห็นหน้าฉันให้หลงฉันไปเลย ….. ประมาณนี้ และการกำหนดราศีจะให้เข้ากับสเปคที่คนที่ต้องการคบชอบ ซึ่งหมอจะต้องหยั่งรู้จิตใจคน คนนั้นได้ถึงจะกำหนดคาถา กำหนดจิตได้

หรือกรณีไม่มีแฟน อยากให้คนมาจีบ อยากมีแฟนมีฐานะรวยเข้ามา หมอจะใช้วิธีเสริมราศีนี่เหละครับ เมตตามหานิยม มหาเสน่ห์ (อ่านในรีวิวเว็บหลักของสำนัก) เสริมแบบอลังการณ์ ก็ถือเป็นการทำเสน่ห์อีกรูปแบบหนึ่ง หรือ คนทำงานกลางคืนอยากให้ลูกค้ามาติด ก็จะมีคาถาราศีที่โดนมองแล้วเกิดความใคร่ (อารมณ์ทางเพศ) ก็เป็นการปรับคาถาให้อีกแบบหนึ่ง คือ มันหลากหลายครับ

เคยมีกรณี ทินเดอร์ Tinder แอฟหาคู่กันทั่วโลก เคยมีผู้หญิงคนไทยคุยกับคนสวีเดน (สัญชาติจีน)อายุ 25 หล่อมาก ผูกดวงจนเขาบินมาสู่ขอ แต่ฝ่ายผู้หญิงไทยปกปิดอายุ (40ปี) ก็ลุ้นมาว่าเขาจะรับได้ไหม สุดท้ายมาสู่ขอก็พากันไปอยู่ต่างงานที่สวีเดน สำนักเราก็ทำมาแล้ว เพราะพี่หมอหยั่งรู้จิตใจ คนสวีเดนคนนั้น ว่าต้องการผู้หญิงที่ให้ความอบอุ่น คือใช้คาถาอาคมกำหนดจิตให้มองผู้หญิงไทยแบบอบอุ่น จนไม่สนใจเรื่องอื่นไปเลย ซึ่งหมอจะต้องหยั่งรู้จิตใจคน คนนั้นได้

ในรีวิว ในเว็บหลักของสำนักท่านจะเห็นว่า ลูกค้าสำนักจะพูดถึงราศี มีคนมาชม นั่นเป็นคาถาราศีถูกใจเพศตรงข้าม มีผลกับคนรักแล้วคนทั่วไปด้วย จริง ๆ แล้วพิธีแต่ละคนไม่เหมือนกัน ปัญหาบางคู่มี มือที่สาม ปัญหาบางคู่ไม่มี โดนของบ้าง ไม่โดนของบ้าง ดวงตก ราหู ทำให้แฟนเลิกไปก็มี ยังไงก็แล้วแต่ การทำตัว วางตัวในส่วนของท่าน 50% หมอทำพิธี 50% พิธีทำเสน่ห์ เรียกคนรักต่าง ๆ ไม่ใช่เป็นหน้าที่ของหมอเพียงอย่างเดียว ผลลัพธ์จึงเป็นเรื่องเฉพาะคน บางคนโดนแก้เคล็ดแก้ของไปก็มี ถ้าหากหมอ ไม่สามารถดูดวง หยั่งรู้ได้ คือจบเลย พิธีจะตาบอด จะหลงทิศหลงทางไปหมด

คนทั่ว ๆ ไป มองข้ามตรงนี้ไปมากทำให้โดนหลอก ทำเสน่ห์ที่ไหน ก็ไม่สำเร็จ หมอไสยศาสตร์ที่เก่งจริง ต้องทายทักได้ ไม่งั้นคุณจะเสี่ยงโดนคนธรรมดามาเปิดสำนักหลอกเอา พอไปทำมาหลายๆ ที่ไม่สำเร็จ ก็มาบอกว่า “ ผมนะคุณต่อ ผมทำมา สี่ ห้า สำนักแล้ว ขนาดทำที่สำนักใหญ่ๆ ดังๆ นั้นก็ทำมาแล้ว …. คือ ลูกค้าโดนต้มมาแบบยังไม่รู้ตัวอีกลักษณะนี้เยอะมาก